ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์และขึ้นไปทําระดับสูงสุดของปีนี้ ครั้งใหม่บริเวณ 1,557.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นจากการที่สภาสามัญชนของอังกฤษ “อนุมัติ” ร่างกฎหมายเพื่อขัดขวาง “no-deal Brexit” โดยร่างกฎหมายนี้ จะกดดันให้นายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ ร้องขอต่อสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายกําหนดเส้นตาย Brexit เป็นวันที่ 31 ม.ค.2020 จากเดิมวันที่ 31 ต.ค.นี้
หากนายจอห์นสันไม่สามารถยืนข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ต.ค. อย่างไรก็ดี ราคาทองคําอ่อนตัวลงในเวลาต่อมาจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกงและ Brexit จึงเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงบวกของทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +5.86 ตัน ขณะที่เช้านี้ราคาทองคําอ่อนตัวลงในตลาดเอเชีย หลังสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่าเจ้าหน้าที่จากสหรัฐและจีนได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อเช้าวันนี้ และตกลงที่จะจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ในต้นเดือนตุลาคม
สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ การจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP, ดัชนี PMI ภาคบริการและจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่มา ylgbullion.co.th